โปรแกรมฝ้า

Knowledge

สารบัญ

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ประเภทของฝ้า

สาเหตุของการเกิดฝ้า

การรักษาฝ้าที่ Doctor Tony

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมรักษาฝ้า

รีวิวผู้รับบริการจริง

…………………………….
ฝ้าเกิดได้อย่างไร ?

ฝ้าเกิดจากการที่ผิวถูกกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ในชั้นผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นสีคล้ำตั้งแต่จุดเล็กๆ กระจายทั่วใบหน้า หรือเป็นวงรอยด่างดำขนาดใหญ่ในบริเวณที่ถูกกระตุ้นเยอะที่สุด ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสี (Melanin) ที่มากเกินไปนั้น โดยมักมีสาเหตุมาจากแสงแดดที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการผลิตเม็ดสีที่มากเกินปกติ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา  ส่วนมากจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในช่วงวัย 30-55 ปี

สาเหตุการเกิดฝ้ายังมีอีกหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง เช่น พันธุกรรม สีผิวของแต่ละคน อาทิเช่น คนที่ผิวคล้ำหรือมีผิวสีเข้มจะเกิดได้ง่ายกว่าคนผิวขาว   รวมไปถึงการทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การรักษาด้วยฮอร์โมน สามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดฝ้าขึ้นได้เช่นกัน
………………………………….

ประเภทของฝ้า


1: แบบตื้น

2: แบบลึก

3: แบบผสม

1.ฝ้าตื้น (Epidermal type)

เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังกำพร้า เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสี สร้างเม็ดสีและลำเลียงเม็ดสีขึ้นสู่ผิวหนังชั้นบนสุด (ชั้นหนังกำพร้า)

มีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเทาดำ และสามารถเห็นขอบเขตได้ชัดเจน

2.ฝ้าลึก (Dermal type)

เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังแท้ มีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีเทาอมฟ้า มีขอบเขตของฝ้าไม่ชัดเจน

เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสี สร้างเม็ดสีออกมาอยู่ใต้ต่อชั้นหนังกำพร้า คืออยู่ในชั้นหนังแท้ (ผิวหนังชั้นอยู่ใต้หนังกำพร้า) จึงทำให้ฝ้าชนิดนี้มักจะมีสีอ่อนกว่าชนิดฝ้าตื้น โดยอาจมีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีน้ำตาลเทา หรือ สีม่วงอมน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีขอบเขตไม่ชัดเจน กลืนไปกับผิวหน้าเป็นบริเวณกว้าง

3.ฝ้าผสม (Mixed type) ฝ้าที่มีการผสมกันระหว่างฝ้าลึก และฝ้าตื้นบนใบหน้า

คือมีการผสมกันทั้งฝ้าชนิดตื้น และชนิดลึก เป็นชนิดที่พบมากที่สุด ในคนไข้ทั่วไป

……………………………………..

สาเหตุของการเกิดฝ้า

UVA / UVB

ทั้ง UVA และ UVB และแสงที่ตามองเห็น (Visible Light)เป็นตัวการหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า

และยังอาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำจากการไหม้หากตากแดดร้อนๆ เป็นเวลานานได้

ฮอร์โมน

ไม่ว่าจะเป็นจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือนหรือ

จากการได้รับฮอร์โมนจากภายเพิ่มขึ้น เช่น การทานยาคุมกำเนิด การทานยาฮอร์โมน

การใช้เครื่องสำอางบางชนิดซึ่งจะมีส่วนทำให้เซลล์เม็ดสีทำงานมากขึ้น จึงเกิดฝ้าได้ง่ายกว่าปกติ

ครื่องสำอาง

ส่วนใหญ่จะมาจากการแพ้เครื่องสำอางและทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบ

ส่งผลให้เป็นรอยดำหมองคล้ำคล้ายฝ้า หรือทำให้ผิวอ่อนแอลงและถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ง่าย

ยาบางชนิด

เช่นในกลุ่มยาที่มีปฏิกิริยาไวต่อแสง (Phototoxic Drugs) หรือยาทา

ในกลุ่มไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ที่มักจะผสมมาในครีมทาผิวสูตรเร่งผิวขาวที่ไม่ได้มาตรฐาน

หากต้องมีการใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

พันธุกรรม

มีโอกาส 30-50% ที่จะเป็นฝ้าง่ายหากคนในครอบครัวเป็น

การได้รับสารอาหารผิดปกติ

โดยอาจได้รับสารบางอย่างไม่เพียงพอ หรือได้รับในสัดส่วนเกินพอดี

ไม่สมดุล เช่น จะมีการพบการเกิดฝ้าได้ง่ายในผู้ที่มีภาวะการทำงานของตับที่ผิดปกติ

หรือขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น

…………………………………………………

การรักษาฝ้าที่ Doctor Tony

ตัวยาเฉพาะของ Doctor Tony Clinic ทำหน้าที่เข้าไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานิน เพื่อช่วยชะลอโอกาสการเกิดฝ้าทั้งชั้นลึกและชั้นตื้นของผิว ลดรอยดำ ลดความหมองคล้ำ เป็นการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้นจากภายใน

ข้อดีของโปรแกรมฉีดรักษาฝ้าที่ Doctor Tony

ฝ้าดูจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด

เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วและดีกว่าการรักษาฝ้าด้วยวิธีอื่น เช่นการทาครีม ทำเลเซอร์

สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

สามารถฉีดต่อเนื่องได้โดยไม่เป็นอันตราย จำนวนครั้งในการรักษาจึงสามารถปรับเปลี่ยนตามลักษณะปัญหาผิวของคนไข้ได้ ทำให้เหมาะสำหรับทุกคน ทั้งผู้ที่มีฝ้าจางๆ ไปจนถึงผู้ที่มีฝ้าหนา สีเข้มเห็นชัด

นอกจากทำให้ฝ้าจางลงยังช่วยปรับให้ผิวนุ่ม เนียนละเอียดขึ้น

รักษากี่ครั้งถึงจะเห็นผล

โปรแกรมฉีดรักษาฝ้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรฉีดทุกๆ สองสัปดาห์ต่อเนื่องกัน 3-10 ครั้ง จำนวนครั้งที่ฉีดจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นกับความหนาและความเข้มของฝ้า

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมรักษาฝ้า


หลีกเลี่ยงแสงแดด

หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

หากจำเป็นจริงๆ ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไป

เติมทุกๆ สองชั่วโมง และควรหาที่บังแดดเล็กน้อยอย่างการใส่หมวก หรือพกร่ม

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์

ไม่ควรใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำหอม

แอลกอฮอล์เป็นปริมาณมากเพราะหากแพ้อาจทำให้เกิดรอยดำลักษณะคล้ายฝ้าได้

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ในชีวิตประจำวันทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 PA+++ ขึ้นไป

ทุกวัน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่ในออฟฟิศก็ตาม

มีวินัยในการรักษา

มีวินัยในการดูแลตัวเองทาครีม รับประทานยา

หรือเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ตามที่แพทย์แนะนำ


รีวิว

รีวิว

รีวิว

รีวิว

Categories

หมวดหมู่

ฉีดฟิลเลอร์ปาก