5 คําถามยอดฮิตเกี่ยวกับ สารลดเลือนริ้วรอย Filler ที่ถูกถามมากที่สุด

Knowledge

การทําสวยด้วยแพทย์ เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าไม่จำเป็นและหลายคนก็เห็นถึงประโยชน์ค่ะ คุณขามาดามเม้าท์จะไม่พูดถึงความชอบและความเชื่อที่แตกต่างในเรื่องนี้ แต่จะขอแชร์ประสบการณ์การทําสวยด้วย Botox และ Filler ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน เผื่อจะเป็นข้อมูลให้คนที่อยากรู้เป็นความรู้เฉยๆรวมไปถึงคนที่อยากลองบ้างแต่ ยังกล้าๆกลัวๆ ทั้งหมดนี้เรียบเรียงจากประสบการณ์การทําสวยด้วยน้องโบฯ และน้องฟิลฯ กับ “คุณหมอวรพล สุขีวัฒนา หรือ คุณหมอโทนี” ที่ทำสวยให้ด้วย และก็ตอบคำถามเรื่อง เทคโนโลยีความงามให้มาดามเม้าท์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

ไม่เชื่อดูรูป BEFORE & AFTER ของอิชั้นเป็นหลักฐาน

Screen Shot 2017-05-15 at 12.04.05 AM

เห็นมะวิทยาการณ์ฯดีๆก็ช่วยชะลอวัยเราได้มากโขนะคะคุณขา

ตลอด 3 ปีที่ให้คุณหมอโทนีดูแล นอกจาก Botox & Filler แล้วมัน มีหลายสิ่งมาก ทั้งเก็บเหนียงด้วย Thermi Tight Program บูสคอลาเจน อีลาสติน ให้ผิวแข็งแรงด้วย Thermi Smooth และ Sygmalift HIFU
ใช้ฟิลเลอร์ช่วยผิวอุ้มน้ำตอนที่ผิวแห้ง จากอาการแพ้สกินแคร์มากๆ แลืวก็รักษาการคล้ำใต้ตาให้ด้วย Micro Bright Program

ดูรายละเอียดคร่าวๆได้ที่ http://www.beautymouthsy.com/2016/01/%E0%B8%BAbeauty­technology­update­by­doctor­tony/

ตลอดระยะเวลา 3 ปีนี้ มาดามเม้าท์ได้คุยกับคุณหมอโทนี่แทบจะทุกอาทิตย์ เพราะพอเริ่มผิวดีขึ้น ก็เริ่มมีคนถามเยอะขึ้นโดยเฉพาะเรื่องโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์เนี่ย ถือเป็นไอเท็มยอดฮิตเลยคร้า ถามจนต้องรวบรวมคำถามยอดฮิต ทั้ง 5 คำถามนี้ไปถามคุณหมอโทนี่เลยทีเดียว

วันนี้มาดามเม้าท์ขอรวม 5 คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับ BOTOX และ FILLER มาตอบกันในนี้เลย

คำถามไหนที่อิชั้นตอบไม่ได้ ขออนุญาตถามคุณหมอโทนี่แล้วเรียบเรียงมาตอบให้อีกที่นะเธอ เริ่มกันที่คำถามแรกคือ

1­.Filler กะ Botox ต่างกันยังไง?

ก่อนจะตอบคำถามนี้ต้องอธิบายก่อนว่าอะไรเป็นอะไรเนาะ

Botox เป็นชื่อการค้าของยา ชื่อเต็มๆคือ “โบทูลินั่มท็อกซิน” เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างและสกัดจากแบคทีเรีย ที่มีชื่อ ว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) หรือ แบคทีเรีย ที่มี ข่าว ครึกโครมเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้นว่า เจอในปี๊บหน่อไม้ที่คนกิน เข้าไปแล้วเป็นอัมพาต แพทย์ตอนนั้นก็สกัดโปรตีนจากแบคทีเรีย ตัวนี้มาเป็น Botox ที่ออก ฤทธิ์โดยการทําให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ทําให้กล้ามเนื้อคลายตัวพอกล้ามเกิดการคลายตัว ทําให้ผิวหนังที่เป็นริ้วรอยอยู่บนบริเวณกล้ามเนื้อนั้นๆเรียบเนียนขึ้นได้ โดยจะออกฤทธิ์ภายใน 1-2 วัยหลังจากฉีดยา และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 30 วัน นอกจากนั้น Botox ยังรักษาอาการเหงื่อออกเยอะ ตามบริเวณ  มือ เท้า รักแร้ หรือลดกล้ามเนื้อทำให้ดูเล็กลง

ส่วน Filler เป็นสารเติมเต็มจริงๆแล้วมีอยู่ 2 ชนิดค่ะ คุณขา

ชนิดที่ 1 – เป็นฟิลเลอร์แบบถาวร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อพาราฟินนั่นแหละเธอ อยู่ยงคงกระพันธ์ แต่นานวันก็จะย้อย ตอนนี้เลยเป็นสารต้องห้ามฉีดเข้าร่างกาย เพราะมันมีความเสี่ยงเนี่ยแหละ ตัวนี้เป็นตัวที่หลายๆคนกลัว เพราะได้ยินข่าวอันตรายในการฉีดสารเติมเต็ม แต่จริงๆมันมีอีกชนิดนึงคือ

ชนืดที่ 2 – แบบไม่ถาวร คือสารเติมเต็มที่ชื่อ “ไฮยาลูโรนิก แอซิด” หรือ HA ที่เป็นสารคงความชุ่มชื้นของผิวในร่างกายตามธรรมชาติอยู่นี่แหละคุณขา แต่ Filler ชนิดนี้ มีคุณสมบัติดูดของเหลวเข้ามาในบริเวณที่ฉีด ทำให้เกิดการเติมเต็มโดยไม่เป็นอันตราย แต่พอเราฉีด Filler ปุ๊บ เอ็นไซม์ไฮยาเลสในชั้นผิวหนัง ก็จะเริ่มย่อยสลายภายใน 2-3 วัน จนหมดไปในระยะเวลา 4-6 เดือน จนมีการพัฒนาให้มีความเสถียรมากกว่าเดิมด้วยการ “เคลือบไฮยาลูโรนิกแอซิด” จนทำให้มีอายุอยู่ได้ 1-2 ปี

สรุป

Botox – เนี่ยฉีดเพื่อ “ลด” การหดเกร็งของกล้ามเนื้อใช้ลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ อย่างพวก รอยย่นตรงหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นตรงหว่างคิ้วเวลาขมวดคิ้ว รอยพวกนี้เมื่อใช้โบท็อซ์รักษาจะให้ผลดีค่ะคุณขา

Filler – ใช้ฉีดเข้าไปเติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้นมา แต่จะใช้เติมเต็มรอยที่เราเห็นถึงแม้จะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า อย่างเช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา

Filler-botox

นอกจากนั้นแล้ว คุณหมอความงาม ยังใช้ประโยชน์จากการอุ้มน้ำของไฮยาลูโรนิกแอซิด มารักษาอาการผิวแห้ง ขาดน้ำอย่างหนักจากการแพ้ของมาดามเม้าท์ด้วย

before-after4

2­. หลังจากฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

Botox – การฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละจุดก็ส่งผลให้อายุขัยของนางต่างกันนะเธอ อันนี้หลายคนไม่รู้แต่มาดามเม้าท์เรียกว่าลองทุกส่วนแล้วบนหน้าและพบมันเหมือนหมดอายุไม่พร้อมกันเลยถามหมอต้อง (นายแพทย์วรพล สุขีวัฒนา) มา รวบรวมใจความได้ว่า

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าส่วนบน อยู่ได้ 3 – 6 เดือน

โบท็อกซ์ลดกราม แขน น่อง อยู่ได้  6 – 12 เดือน

โบท็อกซ์ลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ อยู่ได้ 4 – 6 เดือน

โบท็อกซ์ลดความมันและลดรูขุมขน อยู่ได้ 3 เดือนอันนี้อายุสั้นหน่อยเพราะใช้ปริมาณโบท็อกซ์เจือจางมากกว่าการแก้ไขปัญหาในส่วนอื่น

Filler

อันนี้ขอแยกประเภทเนอะ

– Filler HA Filler (ไฮยาลูโรนิกแอซิด) มีลักษณะคงตัว ใช้ในการฉีดเติมเต็มในส่วนที่ขยับย่อยๆเช่นร่องแก้ม ปาก อยู่ได้ 4-6 เดือน แต่ถ้าเป็นการฉีดทดแทนไขมันที่เสื่อมใต้ผิว เติมเต็มคาง หรือจมูก จะอยู่ได้ 1-2 ปี

– Filler แบบ Skin Booster อันนี้จะเป็นลักษณะเป็นเจลนิ่ม หมอจะใช้ฉีดตื้นๆในผิวฉ่ำน้ำ เติมเต็มส่วนที่บางๆ แก้ปัญหาหลุมสิว พวกนี้อยู่ได้ 6 เดือน

3. ฉีด Botox & Filler จะทําให้มีรอยชํ้าเขียวมั้ย มีผลข้างเคียงหรือไม่?

Botox – ถ้าแพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญ ฉีดมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เหมือนในข่าวที่เราเห็นว่าเกิดอาการตาตกจากการฉีดโบทอกซ์ลดรอยตีนกา แถมกล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าแต่ละจุด เป็นเรื่องที่โคตรละเอียดอ่อนอ่ะเธอ เพราะงั้นอิชั้นถึงได้ย้ำกับทุกคนที่ถามเรื่องนี้เสมอว่า เลือกคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้นฉีดโบทอกซ์อ่าไม่ยาก แต่ฉีดกล้ามเนื้อมีดไหน ลึกเท่าไร ตัวยามากแค่ไหน อันนี้ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางจริงเธอๆ ไม่ใช่ดูหมอฉีกทุกวันก็ทำได้เหมือนการแอบอ้างของหมอกระเป๋าทั่วไป

Filler – ถ้าผู้ฉีดไม่เข้าใจเรื่องชั้นไขมันและชั้นผิวของใบหน้า แล้วฉีดสารเติมเต็มน้อยเกินไปก็ไม่เห็นผล แต่ถ้าฉีดมากเกินไปจนไปเบียดเส้นเลือดฝอยตามเนื้อเยื่อ ทีนี้แหละเนื้อเยื่อบริเวณนั้นก็จะอักเสบ ติดเชื้อ เสียหายได้ แล้วโดยเฉพาะถ้าผู้ฉีดไม่มีความรู้ในการฉีดจริงๆทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปสู่เส้นเลือด ผลเสียใหญ่หลวงคือทำให้เส้นเลือดตีบจนเป็นผลเสียค่ะคุณขา

แต่เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยีความสวยด้วยแพทย์ก้าวไปไวมาก เพราะมีโปรแกรมบอกตำแหน่งเส้นเลือด หรือที่เรียกว่า โปรแกรม “Vein Mapping” ไว้ตรวจหาเส้นเลือดฝอยลดรอยเขียวช้ำ โปรแกรมนี้ช่วยให้การลงเข็มของหมอตอนฉีดโบทอกซ์ ฟิลเลอร์ ในการที่จะไม่ถูกเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวหน้า หรือถ้าต้องการให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด ก็ไม่ต้องคลำหาเส้นเลือดอีกแล้วค่ะเธอ เพราะโปรแกรมนี้บอกตำแหน่งให้แล้ว

6-1

หลักการทำงานของ Vein Mappimg ก็คือใช้แสง Infrared ในการจับกับเม็ดเลือดฝอยขนาดเล็ก หมอจะเห็นเส้นเลือดบนใบหน้าได้ลึกถึง 1.5 เซนติเมตร เลยเป็นเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับหมอ แล้วก็ลดอัตราที่จะเกิดการเขียวช้ำได้สูงมากด้วยค่ะ

7

4. ฉีดโบทอกซ์นานๆ อันตรายมั้ย

อันนี้เป็นสิ่งที่หมอที่มีจรรยาบรรณจะแนะนำว่า ให้ทิ้งช่วงการฉีดหลังจากที่โบทอกซ์เดิมหมดฤทธิ์แล้วประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ ถ้าให้ดีๆเลยก็เว้นสัก 4-6 เดือน เพราะไม่งั้นจะเสี่ยงกับการตื้อโบทอกซ์เด้อ

8-1

ใครบ้างที่ต้องระวังในการฉีดโบทอกซ์

คนที่เข้าข่ายข้อนี้ คือ ต้องบอกหมอก่อนทุกครั้งที่จะทำสวยด้วยโบทอกซ์เน้อ

คนท้อง / กำลังให้นมลูก / อายุ 65 ปีขึ้นไป / เคยมีประวัติอาหารเป็นพิษที่เกิดจากเชื้อ Botuinum Toxin / มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงตรงที่จะฉีด / เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท / มีอาการปวดข้อ / เคยมีประวัติแพ้ไข่ขาว / มีแผลติดเชื้อตรงที่จะฉีด / กำลังกินวิตามินอี หรือ แปะก๊วย (ต้องงดก่อนไปฉีด ไม่งั้นเลือดแข็งตัวช้า)

อันสุดท้าย คนที่คยตึงหน้ามาก่อน อันนี้ต้องแจ้งคุณหมอก่อนเลยนะค่ะคุณขา เพราะคนที่เคยผ่านศัลยกรรมนี้ จะตอบสนองกับโบทอกซ์ต่างออกไป ต้องบอกหมอก่อนเพื่อให้ประมาณปริมาณยาให้เหมาะสม

5. การเตรียมตัวก่อนฉีด และ ดูแลหลังฉีด

ก่อนฉีด – ถ้าใครกินวิตามินอี น้ำทันตับปลา สารสกัดจากแปะก๊วย ยาแก้ปวดในกลุ่มแอสไพริน หรือเอ็นเสดส์ ต้องหยุดกินก่อน 1 อาทิตย์ก่อนมาทำสวย เพราะคนกินวิตามินหรือยากลุ่มที่บอกมา เลือดจะแข็งตัวช้า มันจะเป็นรอยช้ำได้ง่ายค่ะเธอ

ที่มา : www.beautymouthsy.com/2017/05/4-questions-about-botox-filler/

Categories

หมวดหมู่

ฉีดฟิลเลอร์ปาก