เปรียบเทียบทรีตเม้นท์ยกกระชับ

Knowledge

เนื่องจากในปัจจุบันทรีตเม้นท์ลดริ้วรอยและยกกระชับมีมากมายทำให้เกิดคำถามว่าจะใช้อะไรดีหรือว่าแต่ละตัวเหมาะกับใคร แน่นอนว่าหลายๆ คนก็อยากจะมีผิวที่ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ ดังนั้นมาลองทำความรู้จักกับเทคนิคและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่นิยมใช้กันว่าแต่ละตัวลักษณะการทำงานเป็นอย่างไร ลงลึกแค่ไหน และจะเหมาะกับใคร

โดยโปรแกรมยกกระชับที่จะนำมาพูดถึงคือ

  1. Sygmalift HIFU
  2. ThermiSmooth
  3. Thermage CPT
  4. Ulthera
  5. ThermiTight
  6. Filler Lifting
  7. 8-Point Filler Lifting
  8. Botox Nefertiti Lift
  9. ร้อยไหม

ซึ่งแต่ละตัวจะลงลึกในชั้นผิวและทำหน้าที่แตกต่างกัน โดยโครงสร้างชั้นผิวของคนเราหลักๆ จะแบ่งได้ดังนี้

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
เป็นชั้นบนสุด ลงไปที่ระดับความลึกประมาณ 0.7 มิลลิเมตร ซึ่งก็คือชั้นผิวด้านนอกที่เรามองเห็นและทาครีมบำรุงผิว ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยเซลล์ที่มีการเรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยร่างกายจะมีการสร้างเซลล์ใหม่ออกมาเป็นระยะและเซลล์นั้นจะเคลื่อนตัวมาทดแทนเซลล์เดิมที่อยู่ด้านบน ผลัดเปลี่ยนกันเรื่อยๆ เซลล์เดิมที่เคยอยู่บนสุดก็จะหลุดลอกออกไปเองเป็นขี้ไคล นอกจากนี้ในผิวชั้นหนังกำพร้ายังมีเซลล์เมลานิน หรือเซลล์เม็ดสีผิวปะปนอยู่ด้วย ซึ่งจำนวนเมลานินจะมีมากหรือน้อยก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ หรือเมื่อเรามีฝ้า กระ ผิวแห้งกร้าน หรือริ้วรอย ก็จะปรากฏให้เห็นในชั้นนึ้

2. ชั้นหนังแท้ (Dermis)
ถัดลงมาจากชั้นหนังกำพร้า มีความหนากว่า อยู่ที่ความลึกประมาณ 1.5 มิลลิเมตร หลอดเลือด เส้นประสาท ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ และรูขุมขนจะกระจายอยู่ในชั้นนี้ ชั้นหนังแท้มีโปรตีนหลักสองชนิดคือ คอลลาเจน (Collagen) ให้ความแข็งแรงแก่ผิวหนัง ทำหน้าที่ซ่อมแซมเมื่อผิวหนังได้รับบาดเจ็บ และอิลาสติน (Elastin) เป็นตัวสร้างความยืดหยุ่น เมื่ออายุผิวมากขึ้นคอลลาเจนและอิลาสตินก็จะเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวด้านบนเห็นเป็นร่องลึก ริ้วรอย หรือผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ

3. ชั้นไขมัน (Hypodermis หรือ Subcutaneous Tissue)
ลึกลงไปที่ประมาณ 3.0 มิลลิเมตร ส่วนประกอบหลักคือเซลล์ไขมัน ความหนาหรือบางขึ้นอยู่กับไขมันของแต่ละบุคคล ชั้นไขมันมีหน้าที่ให้ความอบอุ่น รักษาอุณหภูมิของร่างกาย และลดแรงกระแทกจากภายนอก

4. ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System)
SMAS มีลักษณะเป็นเหมือนเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ ที่อยู่ใต้ชั้นไขมันและคลุมชั้นกล้ามเนื้อเอาไว้ ความลึกอยู่ที่ประมาณ 4.5 มิลลิเมตร เป็นฐานที่ทำหน้าที่รองรับแรงเสียดสี ลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นที่ผิวด้านบน เมื่ออายุเพิ่มขึ้นและผิวเริ่มหย่อนคล้อย หากทำศัลยกรรมดึงหน้าแพทย์ก็จะดึงชั้น SMAS ทำให้ผิวหนังส่วนอื่นๆ ทั้งชั้นไขมัน หนังแท้ หนังกำพร้าดูตึงไปด้วย

5. ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle)
ใบหน้าของเราประกอบด้วยกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ มากมาย ทั้งส่วนที่ใช้แสดงสีหน้า แสดงความรู้สึก อย่างกล้ามเนื้อรอบคิ้ว หน้าผาก รอบดวงตา โหนกแก้ม และรอบปาก ส่วนที่ใช้สำหรับการเคี้ยวอาหาร อย่างบริเวณกรามและขมับ เมื่อมีการขยับและแสดงสีหน้าในชีวิตประจำวัน กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอด พอเวลาผ่านไปนานๆ ก็เกิดความตึงและทำให้ดึงรั้งผิวหนังให้เกิดรอยย่นตามไปด้วย หรือกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ใช้แรงบดเคี้ยวอาหารในทุกวันก็เหมือนได้รับการบริหารอยู่ตลอดทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่บริเวณใต้คางและลำคอ (Platysma) ที่จะคอยดึงรั้งให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ บนใบหน้าหย่อนคล้อยลงตามกาลเวลา ทำให้เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นนอกจากจะมีริ้วรอยบนใบหน้าแล้วยังมีเหนียง มีคางสองชั้นที่หย่อนคล้อยลงมาอีกด้วย

ตารางเปรียบเทียบทรีตเม้นท์ยกกระชับแต่ละตัว
ตาราง-Vol1
ตาราง-Vol2