ฟิลเลอร์! แท้ VS เทียม เช็คยังไง จิ้มปั๊บคางผุดขึ้นทันที?!

Knowledge

ฟิลเลอร์! แท้ VS เทียม เช็คยังไง ก่อน-หลังฉีด เตรียมตัวดูแลอย่างไร ชมคลิป Before and After จิ้มปั๊บ คางผุดขึ้นทันที สวยธรรมชาติหรือสวยศัลย์

ฟิลเลอร์ ฮิตกันเหลือเกินกับ การฉีดสารเติมเต็ม หรือคุ้นเรียก ฟิลเลอร์ เพื่อเติมคาง ทว่าเราในฐานะผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไร ว่าฟิลเลอร์ที่อัดเข้าไปใต้หนังหน้านั้นเป็นของจริง ไม่หลอกลวงทำหน้าเน่า อีกทั้งก่อนและหลังฉีดต้องเตรียมตัวดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียง วันนี้ ข่าวสดบิวตี้ จึงไปสัมภาษณ์หมอผู้เชี่ยวชาญ นพ.วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง Doctor Tony Beauty Clinic

แต่ก่อนอื่น ชมคลิป Before and After: พิสูจน์จะจะ! เติมคางด้วยฟิลเลอร์ ซึ่งหมอวรพล ยินดีให้ทีมงานฯ ตามเข้าไปดูกันชัดๆ เลยจ้า

ฟิลเลอร์ตอบโจทย์อะไรบ้าง?

หมอวรพล “เมื่อ 10 กว่าปีก่อนตอนผมเรียนที่อเมริกา ฟิลเลอร์ออกมาสักพักแล้ว แต่ฉีดร่องแก้มอย่างเดียว หมอฉีดอย่างอื่นไม่เป็นเลย เนื่องจากความรู้ของฟิลเลอร์และกายวิภาคศาสตร์บนใบหน้ายังไม่มากนัก  เราไม่รู้ว่าฟิลเลอร์สามารถทำอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันนี้มีความรู้เยอะขึ้น ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเส้นเลือด เส้นประสาท กล้ามเนื้อบนใบหน้า ทำให้เรารู้เลยว่าพออายุมากขึ้น ไขมันบนใบหน้าพร่องลง

ไขมันบนใบหน้าคนเป็นชิ้นๆ ต่อกัน ไม่ได้เป็นชิ้นเดียวทั้งหน้า ตอนเด็กๆ ชิ้นไขมันเหล่านี้อยู่ชิดกัน แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ชิ้นไขมันเหล่านี้หดและมีช่องว่างอยู่ระหว่างไขมัน ทำให้หน้าหย่อนคล้อย และไขมันบางจุดก็หายไป

พอรู้อย่างนี้ เราใช้ฟิลเลอร์ฉีดไขมันที่มันพร่องได้ เติมไปตรงแก่นตรงนั้น ทำให้กลับไปเป็นเด็กได้ เหมือนมีเบบี้แฟตกลับมา หน้าก็เด็กลง นอกจากนั้นก็จะมีฉีดขมับ ฉีดใต้ตา เติมคาง ร่องน้ำหมาก ฯลฯ

เติมคาง! ระหว่างฟิลเลอร์กับไปศัลยกรรมเลย วิธีไหนดีกว่า?

หมอวรพล “ทำได้ทั้งสองอย่าง ไปใส่ซิลิโคนเป็นแท่งเลยก็ได้ หรือเติมเป็นฟิลเลอร์เลยก็ได้ ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

พูดกลางๆ ครับ อย่าง การผ่า ก็โอเคเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับฝีมือหมอผ่าตัดด้วยว่าออกมาจะเป็นอย่างไร

ผมในฐานะแพทย์ผิวหนัง หมอมือฉีด ผมเชียร์ฟิลเลอร์ เพราะออกมาแล้วดูธรรมชาติ สองปีก็สลายไป ชอบใจก็มาเติมใหม่ได้ และในเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ชิดกระดูก จะมีคอลลาเจนสร้างใหม่เยอะมาก มันจะหายช้ามาก สามปีก็ยังอยู่”

แนะนำวิธีการเช็คฟิลเลอร์จริงกับปลอม

หมอวรพล “เช็คค่อนข้างยาก อันไหนของจริง อันไหนของปลอม เพราะบางทีทำเหมือนเลย คุณหมอเองยังไม่รู้เลยว่าของปลอม เพราะมีเซลส์ข้างนอกมาขายให้  อาทิตย์ก่อนเอง ที่มีการจับบริษัทนำเข้าฟิลเลอร์ปลอม

‘ปลอม’ ณ ที่นี้คือ ทำแพกเกจกล่องเหมือนของแท้ แต่ข้างในไม่ใช่ ข้างในเป็นสารกึ่งซิลิโคน ซึ่งไม่ย่อยสลาย และก็ไม่ใช่ HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในผิวเราอยู่แล้ว ย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ ปลอดภัย อยู่ได้ปีสองปี สารตัวนี้ต้นทุนแพง เลยมีการปลอมกันเยอะ

ดังนั้นผู้บริโภคต้องระวังมากๆ ข้อแรก เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ รู้ชื่อคลินิกเสร็จ ตรวจสอบกับบริษัทผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยโดยตรง โทรไปถามที่บริษัทตัวแทนเลย ว่าจะมาฉีดที่คลินิกนี้ คลินิกนี้ใช้ของที่บริษัทจริงหรือเปล่า ทางบริษัทตัวแทนเค้ามีหน่วยที่ให้ข้อมูลได้ ผู้บริโภคก็มั่นใจขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

ข้อต่อมา ต้องดูฝีมือของหมอที่ฉีด คุณหมอต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ นอกจากไปเรียนแล้ว ต้องมี learning curve (การสะสมประสบการณ์การทำงาน โดยเฉพาะงานที่อาศัยความถนัดและใช้ฝีมือ) หลายๆ ปี เป็น 100 เป็น 1000 เคส มันถึงยิ่งทำให้คุณหมอคนนั้นดูใบหน้าเป็น และฉีดสวยขึ้น มันเป็น art ด้วย นอกจากเป็น science แล้ว

ภาพซ้ายสุด-ก่อนฉีด, ภาพกลาง-หลังฉีดหมาดๆ, ภาพขวาสุด-หลังฉีด 3 วัน

ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดฟิลเลอร์

หมอวรพล “ไม่ควรกินยาที่ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก เช่น แอสไพริน วิตามินอี พวก oil ทั้งหลาย วิตามินที่อยู่ในน้ำมัน Fish oilPrimrose oil หรือวิตามินดีที่อยู่ในน้ำมัน

คอลลาเจนด้วย เดี๋ยวนี้คนนิยมกินคอลลาเจนกันเยอะมาก บางคนถ้าไม่ได้บอกก่อน หรือลืมบอก เอาเข็มออกปุ๊บจะรู้เลยว่าคนนี้กินคอลลาเจนมา เพราะเลือดไม่เหมือนคนอื่น จะใสๆ และซึมเยอะกว่าคนอื่น กดเป็นนาที เลือดก็ไม่หยุด

รวมทั้งยาแก้ปวดในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) พวกแอสไพริน บรูเฟน (Brufen) ฯลฯ

แนะนำให้หยุดยาเหล่านี้ล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ เพราะนอกจากทำให้เลือดหยุดยากแล้ว ยังจะทำให้เกิดอาการบวมหรือรอยเขียวช้ำในตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

ภาพซ้าย-หลังฉีด 3 วัน, ภาพขวาบน-ก่อนฉีด, ภาพซ้ายล่าง-หลังฉีดหมาดๆ

ควรดูแลอย่างไรหลังฉีด

หมอวรพล หลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ ไม่ควรนวดหน้า และงดการเข้าซาวน่า โยคะร้อน ยิงเลเซอร์ แม้มีงานวิจัยว่าเลเซอร์หรือความร้อน ไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เมื่อทำไปแล้ว ก็ไม่ควรเอาอะไรไปกระตุ้นที่หน้า และเพื่อความปลอดภัยดีกว่าครับ

ฉีดฟิลเลอร์แล้ว ควรทิ้งช่วงนานแค่ไหนถึงฉีดซ้ำอีกได้

หมอวรพล “ถ้าเป็นตำแหน่งเดียวกัน ไม่แนะนำ จะให้รออย่างน้อย 2 อาทิตย์ รอให้เข้าที่ ทุกอย่างเซตตัว รู้สึกว่าเอ๊ะ! คางยังสั้นเกินไป อยากฉีดเพิ่ม ก็สามารถทำได้ ขอให้รอหน่อย

แต่ถ้าจะมาฉีดตำแหน่งอื่น ไม่มีปัญหา สามารถฉีดได้เลย

Reference: https://www.khaosod.co.th/beauty/news_2673393

Categories

หมวดหมู่

ฉีดฟิลเลอร์ปาก