เรื่องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ไว้ใจคุณหมอโทนี่ ที่ Doctor Tony Clinic
เมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่มาพร้อมกับอายุนั่นก็คือริ้วรอย ร่องลึก ร่องใต้ตาหรือรอยคล้ำใต้ตา บางครั้งอาจเกิดได้จากพันธุกรรม ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างของใบหน้า ผิวพรรณมักมีการเปลี่ยนแปลง บางคนกระดูกโครงหน้ายุบลง กล้ามเนื้อน้อยลง ทำให้ส่งผลเกิดเป็นรอยตรงใต้ตา ทำให้ดูแก่และโทรม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาอันดับต้นๆ ที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ Filler จึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป
สารบัญ
- สาเหตุปัญหาร่องลึกใต้ตา
- การรักษาร่องใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาด้วย Filler
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- ข้อดีของการใช้ FILLER เพื่อรักษาร่องใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตา
- ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด FILLER ใต้ตา
- เทคนิคการฉีด Filler ใต้ตา ด้วยเข็ม TSK Steriglide ที่ Dr.Tony Clinic
- เทคนิคการฉีดด้วยเครื่อง Vein Mapping
- การเตรียมตัวและการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดจริงไหม
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำไมเป็นก้อน สาเหตุและวิธีแก้
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
- ทำไมต้องเลือกฉีด Filler ใต้ตา ที่ Dr.Tony Clinic
- Review
สาเหตุปัญหาร่องลึกใต้ตา
– อายุที่มากขึ้น: เมื่อเราอายุ 25 ขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ไขมันใต้ตาลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุเกิดเป็นร่องใต้ตา
– พันธุกรรม : ทางคนมีพันธุกรรมในลักษณะ ใต้ตาลึก ตาโหล
– ภูมิแพ้ : เมื่อเราเป็นภูมิแพ้การไหลเวียนของเลือดจะเกิดการติดขัด ทำให้เลือดคั่งจนทำให้เกิดลักษณะรอยคล้ำ
– ไลฟ์สไตล์: อาทิเช่น การใช้สายตาที่มากเกินพอดี ใช้สายตาในที่มืด นอนหลับไม่เพียงพอ
การรักษาร่องใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาด้วย Filler
ร่องใต้ตาหรือที่รู้จักกันในชื่อ Nasojugal groove ยื่นออกมาจากมุมด้านในของดวงตา ตามด้วยโค้งครึ่งวงกลมและเปลี่ยนเป็นร่อง Palpebromalar ร่องใต้ตาที่ลึกสามารถสร้างเงาที่ถูกมองว่าเป็นรอยคล้ำใต้ตาได้ นอกจากนี้ยังสร้างการแบ่งระหว่างเปลือกตาล่างและแก้มซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งคนไข้ที่มีร่องใต้ตาลึกมักจะบอกว่า มันทำให้พวกเขาดูเหนื่อยล้าและดูแก่
ร่องใต้ตาเกิดจากการที่มีร่องจากเปลือกตาล่างถึงกระดูกใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้นเนื้อเยื่อในเปลือกตาล่างจะสูญเสียปริมาตรและเกิดความหย่อนคล้อย ถุงเปลือกตาล่างสามารถเน้นให้มองเห็นเงาของร่องใต้ตาได้มากขึ้น ซึ่งความผิดปกติของร่องใต้ตานั้น สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนตำแหน่งไขมันในเปลือกตาล่าง ด้วยฟิลเลอร์ ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม การฉีด Filler ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มรอยใต้ตาให้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น ร่องลึกดูตื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง และทำให้หน้าดูเด็กลงอีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ทำให้ดูโทรมและดูมีอายุ
- ผู้ที่มีร่องน้ำตาลึก ใต้ตาลึกทำให้ดูคล้ำ
- ผู้ที่ใต้ตาคล้ำที่เกิดจากกรรมพันธุ์
ข้อดีของการใช้ FILLER เพื่อรักษาร่องใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตา
- แก้ไข้ให้ถุงใต้ตาเรียบเนียนขึ้น รอยคล้ำใต้ตาจางหายไป
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ
- เป็นการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บและมีความปลอดภัย หากฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญ
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่เห็นรอยเขียวช้ำ ไม่มีอาการบวมให้ใครจับได้
- ที่ Dr.Tony Clinic ใช้เข็ม TSK Steriglide ปลอดภัยต่อเส้นเลือดใต้ตา
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด FILLER ใต้ตา
- ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลง
- หลังฉีดใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-1.5 ปี (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- หากคนไข้รู้สึกไม่พึงพอใจสามารถเติมหรือนำสารเติมเต็มออกจากบริเวณใต้ดวงตาได้ทันที
- ฟิลเลอร์สามารถสลายตัวไปตามธรรมชาติโดยไม่เป็นอันตราย
เทคนิคการฉีด Filler ใต้ตา ด้วยเข็ม TSK Steriglide ที่ Dr.Tony Clinic
บ่อยครั้งที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดผลข้างเคียงหรือเป็นอันตราย มักเกิดจากการฉีดโดนเส้นเลือด และตัวฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด เทคนิคการฉีด Filler ด้วยเข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไข้ไว้วางใจ เข็มปลายทู่มีลักษณะบริเวณปลายจะทู่ ไม่มีคม ซึ่งข้อดี คือ มีความปลอดภัยต่อเส้นเลือดบริเวณใต้ตา ช่วยลดอาการเจ็บ หลังฉีดไม่มีอาการบวมหรือรอยเขียวช้ำ และสามารถใช้เลาะผังผืดหรือเซาะให้เกิดช่อง เพื่อสร้างพื้นที่ในการเติมเต็มได้ดีขึ้น สรุปได้ว่าการใช้เข็มปลายทู่จึงมีความปลอดภัย และลดการบวมช้ำได้ดีกว่าเข็มประเภทอื่นๆ
เทคนิคการฉีดด้วยเครื่อง Vein Mapping
ที่ Doctor Tony Medical Center คุณหมอจะใช้เครื่อง Vein Mapping เพื่อส่องหาเส้นเลือดของคนไข้ก่อนทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดโดนเส้นเลือด ทำให้หลังฉีดคนไข้จะไม่มีอาการช้ำบวมเกิดขึ้น สามารถใช้ชีวิตปกติได้ทันที
การเตรียมตัวและการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์
ก่อนฉีด 1 สัปดาห์ ควรหยุดกินวิตามินอี น้ำมันปลา คอลลาเจน สารสกัดแปะก๊วย (กิงโกะ) ยาลดการแข็งตัวของเลือด และยาแก้ปวดบางชนิด (แอสไพรินและยาในกลุ่ม NSAIDs) เนื่องจากอาหารเสริมและยาเหล่านี้ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก อาจทำให้มีรอยเขียวช้ำจากอาการเลือดออกใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้หากมีโรคประจำตัว เคยมีประวัติแพ้ยาหรืออาหารเสริม กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดเช่นเดียวกัน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดจริงไหม
เนื่องด้วยใต้ตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดค่อนข้างเยอะ หากแพทย์ผู้ฉีดขาดประสบการณ์หรือใช้เข็มหัวแหลมแล้ว ก็อาจมีสิทธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำไมเป็นก้อน สาเหตุและวิธีแก้
1.ด้วยธรรมชาติของผิวรอบดวงตาเอง กล้ามเนื้อ Orbicularis Oculi นั้นเป็น sphincter muscle หรือกล้ามเนื้อหูรูด คนเรากระพริบตาวันละประมาณ 14000 ครั้ง ซึ่งการกระพริบตาแต่ละครั้งเป็นการ squeeze ฟิลเลอร์ที่ฉีดใต้ตาให้ค่อยๆมากองในจุดเดียวกัน เพราะฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต้องฉีดลึกและ under correct คือฉีดน้อยไว้ก่อน
2.ธรรมชาติของ HA filler ที่ฉีด Hyaluronic acid นั้นเป็นสารอุ้มน้ำ ถึงหลายบริษัทจะพยายามหาเทคโนโลยีในการผลิตให้อุ้มน้ำน้อยลง แต่ก็ยังอุ้มน้ำอยู่ดี พอ HA filler อุ้มน้ำ ฟิลเลอร์ก็จะเกิดการบวมขึ้นมา ซึ่งการบวมจะไม่ได้บวมทันที แต่จะค่อยๆบวมหลังจากฉีด หลายคนตอนแรกหลังฉีดทันทีจะสวยเรียบใต้ตาเต็ม พอผ่านไป 3-6 เดือน HA filler ค่อยๆดูดน้ำเข้าหาตัว ก็เป็นก้อนใต้ตาขึ้นมา
3.เทคนิคการฉีดของแพทย์ สืบเนื่องมาจากข้อสอง ทำให้เทคนิคการฉีดนั้นต้องวาง plane ลึก แต่บางครั้งด้วยความไม่ทราบ ก็อาจทำให้ฉีดตื้น ซึ่งเมื่อฉีดตื้น โอกาสที่ฟิลเลอร์จะโดน Orbicularis Oculi ขยับก็ง่ายขึ้น
วิธีการแก้นั้น ดีที่สุดคือฉีดให้ถูกต้องแต่แรก แต่ถ้าไม่ทันแล้ว การแก้คือ ถ้าเป็นไม่มาก สามารถฉีดฟิลเลอร์แก้ไขได้ ถ้าเป็นก้อนมากต้องสลายทิ้งทั้งหมดก่อนแล้วรอประมาณสองสัปดาห์ จึงกลับมาฉีดใหม่ ช่วงนี้คนไข้ต้องอดทนไปก่อนครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ *
ฉีด Filler เจ็บหรือไม่ ?
– เราสามารถใช้ยาชาเฉพาะจุด หรือประคบน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่มักบอกว่าเจ็บเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเจ็บเลยระหว่างการรักษา
ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไหร่ ?
– ระยะเวลาในการรักษาแบบคร่าวๆ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในกรณีนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด
ขั้นตอนการรักษา ?
– คุณหมอจะประเมินและให้คำแนะนำก่อนการฉีดทุกครั้ง หลังจากนั้นแปะยาชาก่อนฉีดและทำการฉีดในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่มีรอยแผลเป็นหรือรอยเชียวช้ำใดๆ
ผลลัพธ์จะยังคงอยู่นานแค่ไหน?
– ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์จะยังคงปรากฏให้เห็นเป็นเวลา 6 ถึง 18 เดือน
อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถฉีด Filler ?
– แนะนำสำหรับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ทำไมต้องเลือกฉีด Filler ใต้ตา ที่ Dr.Tony Clinic
– ใช้ผลิตภัณฑ์แท้จาก Allergan ทั้งโบท็อกซ์และฟิลเลอร์
– ใช้เครื่องส่องเส้นเลือด มั่นใจไม่มีรอยเขียวช้ำให้ใครจับได้
–ใช้เทคนิคเข็มปลายทู่ปลอดภัยต่อเส้นเลือดใต้ตา
– ใช้เทคนิคการฉีดที่ปลอดภัยและผลลัพธ์ธรรมชาติ
– ฉีดโดยแพทย์ผู้เป็น Allergan Medical Institute Trainer ประจำประเทศไทยมายาวนานกว่า 10 ปี
– ฉีดโดยแพทย์ที่มียอดใช้ฟิลเลอร์สูงสุด 1 ใน 3 ของประเทศไทยโดยบริษัท Allergan
Review