การเสริมจมูกแบบโอเพน (Nose Reconstruction)

Doctor Tony Beauty Expert

การเสริมจมูกแบบโอเพน หรือ Open Nose Reconstruction  เป็นการเสริมจมูก เพื่อปรับฐานโครงสร้างของจมูก แบบครอบคลุมทั้งหมด สามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้อย่างตรงจุด โดยศัลยแพทย์ จะทำการผ่าตัด เปิดฐานปลายจมูก ทั้งสองข้าง ให้เห็นถึงโครงสร้างภายใน ทำให้สามารถวิเคราะห์ แก้ไข และปรับแต่งทรงได้ตามที่ต้องการ โดยอาจใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกซี่โครงในการเสริมร่วมด้วย เพื่อให้สันจมูกมีความสโลปดูเป็นธรรมชาติ ปรับแต่งปลายจมูกได้ทรงที่ต้องการ ยืดปลายจมูกให้ดูพุ่งขึ้น และลดปัญหาปลายทะลุ

เสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty เหมาะกับใคร ?

ผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย, จมูกสั้น, จมูกคดเบี้ยวผิดรูป  ผู้ที่มีปัญหาจมูกมีฮัมพ์สูง ผู้ที่ผ่านการทำศัลยกรรมเสริมจมูกมาแล้วจนเกิดพังผืดสะสม ผู้ที่ผ่านการฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ หรือซิลิโคนเหลว

ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกกับซับซ้อน ไม่สามารถเสริมด้วยซิลิโคนได้

ผู้ที่มีสันจมูกคด

ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ผิวบาง

ผู้ที่มีจมูกสั้นมาก

ผู้ที่มีจมูกใหญ่

ผู้ที่มีปลายจมูกงุ้ม

ผู้ที่มีปัญหาฮัมพ์ที่สันจมูก

ผู้ที่จมูกลักษณะคล้ายลูกชมพู่ (จมูกโต)

ผู้ที่ต้องการปรับแต่งเปลี่ยนทรงจมูกใหม่

ผู้ที่ต้องการได้ปลายจมูกมีความพุ่ง

ผู้ที่เคยฉีดสารเหลว หรือ ฉีดฟิลเลอร์จมูกมาก่อน

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพน

สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้อย่างตรงจุด

ปรับความโด่งและเลือกรูปทรงได้ตามที่ต้องการ

สามารถเสริมได้ทุกทรง

ตกแต่งจมูกให้เรียวสวย ได้รูปทรงจมูกที่สันสโลปสวยดูเป็นธรรมชาติ

สามารถยืดผนังปลายจมูกให้ยาวขึ้น ดูพุ่งขึ้นได้

ลดความเสี่ยงซิลิโคนทะลุ เบี้ยง หรือเอียง

ผลลัพธ์ทรงจมูกตามที่ต้องการ  ปลายพุ่ง ปลายหยดน้ำ แม้เนื้อจมูกน้อย

                                                           

การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด มักจะต้องใช้กระดูกอ่อนจากส่วนอื่นของร่างกายเพื่อนำมาเป็นโครงสร้างของจมูกที่จะเสริมใหม่ โดยกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู (Ear cartilage), กระดูกอ่อนแกนจมูก (Septal cartilage), และกระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) ที่จะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยมากกว่าและป้องกันการทะลุ

เสริมจมูกโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนหลังหู คือ กระดูกอ่อนที่อยู่บริเวณส่วนแอ่งกึ่งกลางของใบหู (Concha) ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร มีความแข็งแรง โดยคุณหมอจะผ่าตัดนำออกมา ตัดแต่งเป็นวงกลมและเย็บติดกับปลายซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูก วิธีนี้เป็นการเสริมจมูกโดยการใช้กระดูกอ่อนบริเวณหลังใบหู สามารถนำมาใช้แก้ไขโครงสร้างได้ละเอียด  เหมาะสำหรับคนไข้ที่เคยผ่านการทำจมูกมาแล้วมีปัญหา เช่น เกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ เสี่ยงต่อการทะลุ รวมถึงเคสที่ร่างกายต่อต้านซิลิโคน

กระดูกอ่อนแกนจมูกและกระดูกอ่อนหลังหู ข้อดีคือสามารถเอามาได้ง่ายหรือถ้าเคยใช้กระดูกอ่อนแกนจมูกและหลังหูไปแล้ว อาจพิจารณาใช้กระดูกอ่อนซี่โครงแทน ดังนั้นหากต้องการเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรได้รับการประเมินจากแพทย์โดยละเอียด รับทราบข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดตามที่คาดหวังไว้ และหลังจากเข้ารับการผ่าตัดก็ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลการผ่าตัดที่ดีที่สุด

จุดเด่น

1.      แก้ไขปัญหารูปร่างจมูกได้ครบทุกรูปแบบ

2.      ไม่เกิดการทะลุ ลดโอกาสปัญหาเบี้ยวเอียงของซิลิโคน

3.      สัมผัสเนียนไม่มีรอยต่อของซิลิโคน

4.      ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง

5.      สันเรียวสวยดูธรรมชาติ

6.      ยืดผนังกั้นจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้เพิ่มปลายพุ่งได้มากกว่าเดิม

7.      มองไม่เห็นแผล

ข้อจำกัด

1.      ใช้เวลาในการผ่าตัด

2.      ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์มากกว่า

3.      ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า

4.      ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูต่างกับแบบอื่นอย่างไร ?

เทคนิคการเสริมจมูก นอกจากกระดูกอ่อนหลังหูแล้ว ยังมีวัสดุและกระดูกอ่อนส่วนอื่น ๆ ที่นำมาใช้เสริมจมูก เช่น กระดูกอ่อนซี่โครง, เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อเทียมโดยมีความแตกต่างกันดังนี้

  • กระดูกอ่อนหลังหู : เป็นเนื้อเยื่อของเราเองจึงมีความปลอดภัยสูงลดความเสี่ยงเรื่องอาการแพ้สามารถเพิ่มพื้นที่ปลายจมูกให้หนาและยาวขึ้นได้ช่วยลดอาการเสียดสีของซิลิโคนไม่ให้ดันเนื้อปลายจมูกจนทะลุดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและสามารถใช้ในเคสแก้ไขจมูกได้
  • กระดูกอ่อนซี่โครง : เป็นเนื้อเยื่อของเราเองเช่นกัน จึงลดความเสี่ยงเรื่องอาการแพ้ได้ เหมาะสำหรับเคสที่มีกระดูกอ่อนหลังใบหูไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ สามารถใช้ส่วนของกระดูกอ่อนซี่โครงในการทำจมูกแทนซิลิโคนได้ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ   
  • เนื้อเยื่อเทียม : เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นจากคอลลาเจน นำมาใช้รองปลายจมูกเพื่อลดความเสี่ยงในการทะลุ เป็นวัสดุที่มีคุณภาพ ลักษณะเป็นแผ่นนิ่ม ๆ คล้ายฟองน้ำ ใช้อย่างแพร่หลาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้จมูกจากปัญหาผิวหนังบาง หรือคนที่เสริมใหม่และต้องการให้มีปลายที่ยาวขึ้น แต่เนื่องจากเป็นวัสดุสังเคราะห์จึงมีโอกาสเกิดการแพ้ได้

เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูแล้วจะมีแผลเป็นไหม ?

กระดูกอ่อนหลังหู ไม่ได้มีส่วนสำคัญกับโครงสร้างของใบหูมากนัก เมื่อตัดออกมา ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อใบหู ไม่เสียทรง หรือผิดรูปแต่อย่างใด ส่วนแผลหลังการผ่าตัดจากการนำกระดูกอ่อนหลังใบหูออกมาแผลจะอยู่บริเวณรอยพับหลังใบหู สังเกตเห็นได้ยาก หลังทำผ่านไป รอยแผลหลังหู ก็จะค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ

เทคนิคการเสริมจมูกแต่ละแบบจะมีข้อดี จุดเด่นและความเหมาะสมกับบุคคลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในแต่ละเทคนิค จะประกอบไปด้วยเทคนิคย่อย ๆ ร่วมด้วย ดังนั้น ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาของโครงสร้างจมูกว่าเหมาะกับวิธีไหนมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหลังการผ่าตัด และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย 

ที่ DOCTOR TONY MEDICAL CENTER

เรามีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดภายในห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานสากล ปลอดภัย ปลอดเชื้อ และมีเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพโดยเฉพาะพร้อมดูแลตลอดหลังการผ่าตัด ทำให้มั่นใจในการดูแล ใส่ใจตั้งแต่ก่อนทำ จนกระทั่งหลังทำ สวยแบบปลอดภัยอย่างแน่นอน

วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

  1. 1-3 วันแรกให้ประคบเย็นด้วยเจลประคบเย็น (โคลด์แพ็ค) และหลังจากวันที่ 3 ให้เปลี่ยนเป็นประคบอุ่นประมาณ 3 วัน โดยจุดประคบเย็นมีทั้งหมด 6 จุด ดังนี้
    1. 1.1.เบ้าตา – ด้านซ้าย
    2. 1.2.เบ้าตา – ด้านขวา
    3. 1.3.หน้าแก้ม – ด้านซ้าย
    4. 1.4.หน้าแก้ม – ด้านขวา
    5. 1.5.ระหว่างคิ้ว
  2. นอนยกหัวสูง (ควรใช้หมอนรองคอช่วย) และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง 1 เดือน
  3. งด รับประทานของหมักดอง และอาหารที่มีรสจัด แนะนำให้ทานอาหารที่มีรสชาติอ่อน ในช่วง 1 เดือน
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 1 เดือน
  5. ห้าม แคะ แกะ หรือเกา บริเวณจมูก หากรู้สึกคันให้ใช้คอตตอนบัด หรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบา ๆ และระวังอย่าให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน
  6. ระวัง อย่าให้แผลโดนน้ำ ประมาณ 1 อาทิตย์
  7. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือกีฬาประเภทที่ใช้แรงกระแทก เป็นเวลา 4 สัปดาห์
  8. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาลดบวม ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และมาพบแพทย์ตามนัด
  9. การทำแผลใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือเช็ดแผล และทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ วันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าไหมจะหลุดหมด

อาการหลังการศัลยกรรมที่ต้องเจอเป็นเรื่องปกติ

  1. อาการบวมช้ำ
    อาจเกิดขึ้นได้ 2-3 วัน สามารถแก้ได้ด้วยการประคบเย็น 3 วัน หลังจากนั้นประคบอุ่นต่ออีก 3 วัน
  1. อาการตึงรั้งบริเวณแผล
    อาจรู้สึกตึงในช่วงแรกหลังจากผ่าตัด เนื่องจากแผลยังไม่เข้าที่ อาจต้องรอประมาณ 5-7 วัน อาการตึงจึงจะค่อย ๆ ลดลง
  1. อาการเจ็บแผล ให้ทานยาแก้ปวด
    อาจมีอาการในช่วง 2-3 วันแรก แต่เมื่อร่างกายเริ่มสร้างเนื้อเยื่อใหม่มารักษาแล้ว อาการเจ็บจะค่อย ๆ หายไป หรือหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เช่น
    1. แผลอักเสบ เช่น มีอาการเจ็บ ปวด แดง มีหนองไหล
    2. เลือดไหลไม่หยุด
    3. ความดันต่ำ หรือรู้สึกไม่มีแรง

อาหารหลังการศัลยกรรม 3 อย่างที่ห้ามทานเด็ดขาด!

  1. อาหารรสเผ็ด หรือร้อน
    เพราะอาจทำให้มีน้ำมูกไหล เสี่ยงติดเชื้อ เนื่องจากน้ำมูกเป็นสารคัดหลั่งที่มีเชื้อโรค
  1. อาหารหมักดอง
    จะทำให้แผลมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น ส้มตำปลาร้า กุ้งแช่น้ำปลา หน่อไม้ดอง เป็นต้น
  1. อาหารทะเล หรืออาหารที่มีรสเค็ม
    เนื่องจากมีโซเดียมสูง จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ แผลหายช้า และอาจติดเชื้อได้

Testimonial

รีวิวจากลูกค้า

ตั้งแต่ได้มารักษาที่คลินิค Dr.Tony ก็รู้สึกประทับใจมากครับ ดูแลอย่างดีตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษา ระหว่างการรักษา และที่สำคัญ คือ การติตามผลอย่างต่อเนื่อง ผิวดีขึ้นจนคนรอบตัวทัก ความมั่นใจก็ตามมาครับ...

เคน - ศิลปินวง Zeal

ผู้ช่วยหรือคู่หูมาให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องความสวยความงามให้สมกับวัยและดูเป็นธรรมชาติ ดิฉันให้คุณหมอต้อง วรพล แห่งดอกเตอร์โทนี่ คลินิคดูแลฉันมาตลอด...

มูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์​

รักคุณหมอต้อง ประทับใจในฝีมือและความเป็นตัวจริงในเรื่องความสวยงาม คอยดูแลเราตลอด ดวงดีใจมากๆที่ได้พบคุณหมอ รู้สึกโชคดีที่มีกันและกันมาเสมอ
เก่งที่สุดต้อง “คุณหมอต้อง” แห่ง “ดอกเตอร์โทนี่คลินิค”…

ดวง มนตร์ลดา พงษ์พาณิช

เรื่องผิวพรรณ ผมไว้วางใจให้ Dr.Tony ดูแลครับ

แหนม รณเดชน์